มหรรณพในตัวเรา: ปรากฏการณ์วิทยาของการตระหนักรู้และการดูแล
ปาฐกถาใน การประชุมวิชาการระดับชาติ TNPOSS 2025 ทบทวนสังคมศาสตร์: ปรัชญา ปัญหา และการประยุกต์
วันที่ 24-25 กรกฎาคม 2568 จัดโดย คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
สังคมศาสตร์ในศตวรรษที่ 21 พยายามทำความเข้าใจความสัมพันธ์ทางสังคม อำนาจ และปฏิบัติการที่กำหนดรูปแบบของชีวิตมนุษย์ ที่ซึ่งขอบเขตและวิธีการศึกษาได้ขยายออกไปสู่โลกที่ข้ามพ้นไปจากมนุษย์มากขึ้น การขยับเชิงญาณวิทยาดังกล่าวเปิดพื้นที่ให้สังคมศาสตร์ต้องเผชิญกับปัญหาที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ของมนุษย์กับสสาร ระบบนิเวศ และเทคโนโลยีที่กำหนดเงื่อนไขของชีวิตอย่างแยกไม่ออก
น้ำเป็นตัวอย่างหนึ่งของเงื่อนไขเหล่านี้ ซึ่งมิใช่เพียงวัตถุหรือทรัพยากรที่สามารถจัดการได้ผ่านกรอบคิดสมัยใหม่ แต่เป็นองค์ประกอบที่แทรกซึมอยู่ในร่างกาย โครงสร้างพื้นฐาน เมือง ระบบการผลิต นิเวศไร้พรมแดน และภูมิรัฐศาสตร์ น้ำก่อรูปและกำหนดประสบการณ์ทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง ขณะที่ตัวมันเองก็อยู่ภายใต้กระบวนการนิยามและทำให้เป็นนามธรรมอย่างต่อเนื่อง
การบรรยายนี้เชื้อเชิญให้ผู้ฟังร่วมกันสำรวจความหมายและพลวัตของน้ำ ผ่านกรณีศึกษาและงานชาติพันธุ์วรรณนาว่าด้วยน้ำที่ผู้บรรยายทำงานมาตลอดสองทศวรรษ ทั้งในเรื่องการจัดการน้ำในลุ่มน้ำโขง ระบบชลประทานในพื้นที่ชนบท พลวัตของน้ำฝนและน้ำท่วมในเมือง ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงเชิงนิเวศของท้องทะเลไทย งานศึกษาเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าน้ำมิใช่สิ่งที่สามารถทำความเข้าใจผ่านกรอบที่แยกมนุษย์ออกจากสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ได้อีกต่อไป หากแต่มันดำรงอยู่ในรูปแบบของความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน มีความเป็นปฏิภาค และไหลลื่นอยู่ตลอดเวลา
ข้อเสนอของการบรรยายในครั้งนี้ คือการพิจารณาน้ำในฐานะเงื่อนไขของการตระหนักรู้และการดูแล แทนที่จะมองน้ำเป็นสิ่งที่แยกขาดออกจากสรรพางค์และชีวิตของมนุษย์ น้ำคือสิ่งที่สร้างความเป็นไปได้ของการดำรงอยู่ ในขณะเดียวกันก็สร้างขอบเขตใหม่ของความรับรู้ น้ำสามารถปรากฏในรูปของฝนที่ดลมาจากองคาพยพแห่งอำนาจศักดิ์สิทธิ์ คลองผันน้ำที่ไหลผ่านตัวเมือง คลื่นใต้น้ำที่แลกเปลี่ยนสารอาหารและความร้อน หรือหยดเหงื่อที่ไหลผ่านร่างกายของผู้คน ทุกจังหวะของมันกำหนดการดำรงอยู่ของชีวิตในลักษณะที่ทำให้เราต้องคิดใหม่เกี่ยวกับขอบเขตระหว่าง “ภายใน” และ “ภายนอก” ระหว่าง “เรา” และ “สิ่งอื่น”
การดูแลในบริบทนี้จึงไม่ใช่เพียงการบริหารจัดการหรือการอนุรักษ์ แต่เป็นวิธีการทำความเข้าใจโลกที่ตระหนักถึงพหุสัมพันธ์และการพึ่งพาอาศัยกันของธรรมชาติสังคมที่ไม่สามารถแบ่งแยกได้โดยสิ้นเชิง การดูแลต้องเกิดขึ้นบนฐานของการรับรู้ว่าเราเองก็เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการไหลเวียนของน้ำ ซึ่งไม่ได้ถูกจำกัดอยู่เพียงมิติทางกายภาพ แต่รวมถึงมิติของการเมือง วัฒนธรรม วัตถุภาวะ จินตนาการของมนุษย์และปฏิบัติการของสรรพสิ่งด้วย
การบรรยายนี้ไม่ได้ตั้งคำถามเพียงว่าน้ำคืออะไร หากแต่ชวนให้ไตร่ตรองถึงความเป็นไปได้ใหม่ของปรัชญาสังคมศาสตร์ที่ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการคิดและทำความเข้าใจโลกที่มิใช่สิ่งคงที่ หากแต่เป็นปฎิสัมพัทธ์ท่ามกลางกระบวนการของการก่อตัวใหม่ตลอดเวลา การข้ามพ้นมนุษย์จึงไม่ใช่เพียงการเปิดรับสิ่งอื่น แต่คือการตั้งคำถามต่อขอบเขตที่เรากำหนดให้กับตัวเองมาโดยตลอด